หากว่าเอ่ยถึงกระดาษชำระ ต้องบอกเลยว่าคนไทยทุกคน ต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งก็เพราะว่ากระดาษชำระคือสิ่งสำคัญในการใช้งานในวิถีชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดี หากว่าคุณนั้นต้องการให้การเลือกซื้อกระดาษเกิดประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มาดูกันดีกว่าว่าประเภทของกระดาษชำระมีอะไรบ้าง
1.กระดาษเช็ดก้น
สำหรับกระดาษเช็ดก้น เราจะเห็นได้จนคุ้นตาที่ห้องน้ำ เพราะว่าเป็นเยื่อบริสุทธิ์อันมาจากต้นไม้นั่นเอง โดยมีทั้งเยื่อกระดาษรีไซเคิล และเยื่อบริสุทธิ์จากต้นไม้โดยตรง เป็นต้น โดยลักษณะเบื้องต้น เช่น มีลวดลายแตกต่างกัน มีสีแตกต่างกัน และขนาดก็แตกต่างกันอีกด้วย โดยกระดาษเช็ดก้น จะช่วยในการชำระส่วนที่ต้องการให้สะอาด ไม่อับชื้น แต่ต้องมีความนุ่มมาก เพราะว่าหากมีคนเผลอทิ้งไปที่ชักโครกก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสีย อย่างไรก็ดี กระดาษเช็ดก้นม้วนใหญ่ เป็นกระดาษแบบบาง พบในห้างได้ง่าย และมีราคาถูกมาก ซึมซับน้อย ห้องน้ำสาธารณะนิยมในการเอาไปใช้เพราะประหยัดต้นทุน ส่วนม้วนเล็ก ก็เป็นกระดาษที่นำมารีไซเคิลนั่นเอง
2.กระดาษเช็ดหน้า
สำหรับกระดาษชนิดนี้ก็คือกระดาษเช็ดหน้า เป็นกระดาษที่จะมีสองชั้น ถูกบรรจุอยู่ในกล่องรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถหยิบได้สะดวก มีหลายแผ่นในกล่อง มีน้ำหนักไม่มาก เหมาะกับการเอามาเช็ดหน้า หรือบางคนจะเช็ดเครื่องสำอางก็ย่อมทำได้ โดยคุณสมบัติที่นุ่มและสะอาด และมีความเหนียว ทำให้เมื่อเช็ดหน้าก็จะไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองนั่นเอง มอบสัมผัสที่อ่อนโยนให้กับหน้าของเราอีกด้วย
3 . กระดาษเช็ดปาก
สำหรับใครที่ไปโรงแรมหรือว่าร้านอาหารบ่อยๆ ก็คงจะเห็นได้อย่างชัดเจนใช่หรือไม่ว่าเป็นกระดาษที่มีในร้านอาหาร หรือว่าบนโตะอาหาร โดยใช้เช็ดปากเมื่อเรากินอาหารเสร็จ แต่อย่างไรก็ดี เรามักจะคิดว่ากระดาษประเภทนี้จะต้องนุ่ม ทั้งที่ความจริงจะเหนียวพอสมควร เพราะไม่เช่นนั้นจะเปื่อยง่ายเนื่องจากว่า เวลาเช็ดปากก็จะเปียกน้ำนั่นเอง
4 . กระดาษเช็ดมือ
นอกจากนี้ยังมีกระดาษเช็ดมือ พบได้ในห้องน้ำสมาธารณะ โรงแรม เป็นกล่องติดที่ผนังหรืออ่างล้างมือ และดึงออกมาทีละแผ่นเป็นแบบกล่องๆ เหมาะสมกับการทำความสะอาดมือเป็นอย่างมาก เหนียว ไม่ขาดง่าย ไม่เปื่อยยุ่ย แต่ไม่ได้เน้นว่าจะต้องนิ่ม เพราะว่าเช็ดให้มือสะอาดก็เพียงพอแล้ว
สำหรับใครที่อยากเลือกกระดาษให้ถูกกับความชอบของเรา และการใช้งาน แนะนำเลยว่าให้ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าในหมวดกระดาษชำระแล้วจะได้คำตอบที่แน่ชัดว่าเราจะเลือกอะไรมาไว้ในบ้านของเราดี เพื่อลดปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองหรือไม่เหมาะสมนั่นเอง
